แสงอาทิตย์เป็นสิ่งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์อย่างมาก มันช่วยในกระบวนการผลิตวิตามินดี เป็นปัจจัยสำคัญของวงจรการสังเคราะห์ซึ่งจุดเริ่มต้นวงจรอาหารของคนเรา แต่ว่าก็เป็นต้นเหตุของโรคหลายโรคโดยเฉพาะโรคที่เกิดกับผิวหนัง เช่น โรคมะเร็งผิวหนัง และก็โรคผื่นแพ้แสง หรือผื่นแพ้แสงแดด (Photodermatitis หรือ Sun poisoning หรือ Photo allergy)
โรคผื่นแพ้แสง ในที่นี้คือ กลุ่มของโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นด้วยแสงสว่าง/แสงอาทิตย์ ซึ่งตัวที่กระตุ้นให้เกิดโรคก็คือ แสงอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet light) ในแสงแดด ซึ่งโรคในกลุ่มนี้มีด้วยกันหลายโรค จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น
โรคผื่นแพ้แสงที่เกิดจากจากความผิดปกติของผิวหนังเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เรายังไม่รู้กลไกการเกิดโรคที่แน่ชัด ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาค้นคว้า ตัวอย่างเช่น โรค Polymorphous light erup tion, และก็โรค Chronic actinic dermatosis ซึ่งส่งผลให้เกิดผื่นคันเรื้อรังรอบๆผิวหนังที่สัมผัสแสงแดด
ผื่นแพ้แสงที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัยภายนอกร่างกาย ไปกระตุ้นให้เกิดอาการผื่นแพ้เมื่อสัมผัสกับแสงอาทิตย์ (Photoallergic dermatitis) เช่น ในกลุ่มคนที่แพ้น้ำหอม เมื่อถูกแสงแดดกระตุ้นจะมีผลให้กำเนิดอาการผื่นแพ้ขึ้น หรือผื่นที่ถูกกระตุ้นจากการโดนแดดหลังจากสัมผัสกับพืชบางประเภท ตัวอย่างเช่น มะกรูด มะนาว
ผื่นแพ้แสงที่เกิดจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางประเภท เช่น อาการผื่นจากผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการกินยาฆ่าเชื้อ/ยาปฏิชีวนะบางชนิด แล้วผิวหนังได้รับแดด อาทิเช่น ยา Tetra cycline และก็ยังมียาอีกหลายอย่างที่ทำให้ผิวเกิดการตอบสนองที่ไวเกิน (Sensitive) ต่อการถูกกระตุ้นจากแสงสว่างได้ เช่น ยาฆ่าเชื้อรา Griseofulvin , ยารักษาสิว Retinoic acid , ยาแก้ปวดในกลุ่มเอ็นเสด (NSAID)
ผื่นแพ้แสงที่เป็นส่วนหนึ่งของอาการในโรคของระบบอวัยวะอื่นๆภายในร่างกายอาทิเช่น ผื่นแพ้แสงในผู้ป่วยโรคเอสแอลอี (SLE)
ผื่นแพ้แสงที่เกิดขึ้นมาจากการขาดวิตามิน ทั้งในกรณีที่เป็นโรคมาตั้งแต่เกิด หรือมาเป็นโรคในภาย หลัง เช่น ในผู้ที่เป็นพิษสุราเรื้อรัง มักพบว่าเป็น ผื่นจากการขาดวิตามิน บี 3 (โรค Pellagra)
ผื่นแพ้แสงเกิดขึ้นได้อย่างไร?
การที่ผิวหนังมีการตอบสนองต่อแสงอาทิตย์ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จากยาบางจำพวก สารเคมี โรคทางกายต่างๆ(เป็นต้นว่า โรคเอสแอลอี/SLE) โรคทางพันธุ กรรม และก็มีบางส่วนยังไม่เคยรู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งเมื่อเกิดผื่นแพ้แสงขึ้น แนวทางสำหรับการวินิจฉัยโรคก็คือ การรวบรวมข้อมูลจากการซักประวัติทางการแพทย์ การตรวจร่างกาย การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง และการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ผื่นแพ้แสงติดต่อได้อย่างไร?
โรคผื่นแพ้แสง เป็นโรคเฉพาะบุคคล ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่สามารถที่จะติดต่อสู่คนอื่นๆได้ ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม อาทิเช่น ทางอาหาร น้ำดื่ม การหายใจ การสัมผัสตัว/รอยโรค หรือการสัมผัสเครื่องมือเครื่องใช้ของผู้ป่วย
ผื่นแพ้แสงมีอาการเป็นอย่างไร ?
เนื่องมาจากโรคในกลุ่มผื่นแพ้แสงนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทำให้มีอาการของโรคเกิดได้หลายรูปแบบ จุดสำคัญในการการพิจารณาว่า ตัวเรามีอาการของโรคผื่นแพ้แสง มีดังนี้
- ผื่นผิวหนังที่เปลี่ยนไปจากปกติ จะเจอในบริเวณผิวหนังที่ได้รับแสงแดด เช่น ใบหน้า แขน ขา คอ ที่อยู่นอกร่มผ้า
- มักไม่พบผื่นในรอบๆผิวหนังที่ไม่โดนแสงแดด ดังเช่นว่า ข้อพับ เปลือกตาบน รวมทั้งผิวหนังในร่มผ้า
- อาการขึ้นผื่นจะเป็นมากขึ้นเมื่อสัมผัสแสงแดด เช่น ในตอนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งมากๆ หรือตอนที่ไปเที่ยวทะเล ช่วงอากาศร้อนๆ
- ลักษณะของผื่นแพ้แสงนั้นอาจมีได้หลายลักษณะขึ้นอยู่กับต้นเหตุของแต่ละโรคที่ส่งผลให้เกิดผื่นแพ้แสง ได้แก่ อาจมีลักษณะผื่นคันคล้ายกับอาการแพ้ทั่วๆไป หรือมีลักษณะผื่นแดง แสบ เหมือนอาการผิวไหม้
ควรจะไปพบแพทย์เมื่อใด?
หากเกิดมีผื่นผิวหนังที่ผิดปกติและสงสัยว่าเป็นอาการของผื่นแพ้แสง คุณควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำวินิจฉัย และรักษา รวมทั้งรับคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
แพทย์วินิจฉัยผื่นแพ้แสงได้อย่างไร?
การวินิจฉัยผื่นแพ้แสงก็มีแนวทางเหมือนกันกับโรคผิวหนังอื่นๆคือ เริ่มจากการซักประวัติด้านการแพทย์ (สำหรับโรคผื่นแพ้แสงนั้น ในการวินิจฉัยจำเป็นต้องมีข้อมูลของผู้ป่วยที่ค่อนข้างละเอียดทั้งข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ ยา หรือสารเคมีต่างๆที่สัมผัสในชีวิตประจำวัน เพื่อหาความเชื่อมโยงกับมูลเหตุที่กระตุ้นให้ผิวหนังมีการสนองตอบต่อแสงแดดที่ไม่ปกติ), การตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุของโรคอื่นๆ, การตรวจรอยโรคที่ผิวหนังเพื่อให้แน่ใจว่า รอยโรคเกิดขึ้นในบริเวณที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด, การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาที่มาของโรคทางกายที่อาจเป็นสาเหตุของผื่นแพ้แสง ซึ่งที่สำคัญก็คือ การตรวจเพื่อทดสอบการตอบสนองของผิวหนังต่อแสงแดดว่า มีการสนองตอบที่แตกต่างไปจากปกติหรือเปล่า (Phototesting) ซึ่งจะทำได้เฉพาะในศูนย์โรคผิวหนังขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์
การรักษาผื่นแพ้แสงทำอย่างไร?
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของผื่นแพ้แสงนั้น อาทิเช่น
- ผื่นแพ้แสงที่เกิดขึ้นจากการแพ้สารเคมี การรักษาคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีนั้น แล้วก็รักษาตามอาการ ด้วยยาทาประเภทสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง
- ผื่นแพ้แสงที่เกิดขึ้นมาจากการขาดวิตามิน การรักษาจะโดยการให้วิตามินนั้นๆเสริมในอาหาร
- เมื่อผื่นแพ้แสงเกิดขึ้นจากโรคเอสแอลอี การรักษาก็คือการรักษาโรคเอสแอลอี นั่นเอง
ผื่นแพ้แสงมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมาจากผื่นแพ้แสง เช่น ก่อให้เกิดปัญหาด้านความสวยความงามในผู้ป่วยที่มีรอยโรคตามบริเวณใบหน้ารวมทั้งลำตัว แล้วก็เกิดอาการไม่สบายตัวจากอาการแสบคัน
ผื่นแพ้แสงมีการแนวทางการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของผื่นแพ้แสงนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุ ถ้าหากรักษาควบคุมสาเหตุของโรคได้ อาการผื่นแพ้แสงก็จะดีขึ้น ควบคุมได้ อย่างเช่น ถ้ามีต้นเหตุมาจากการแพ้สารเคมี เมื่อหยุดสัมผัสสารเคมี ร่วมกับการรักษาตามอาการ ผื่นแพ้แสงก็จะค่อยๆหายไป
อย่างไรก็ดี ตัวอาการผื่นแพ้แสงเอง โดยส่วนมากมีการพยากรณ์โรคที่ดี รักษาและควบคุมได้จากการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด รวมทั้งการใช้ยาทาที่รอยโรคเพื่อรักษาอาการทางผิวหนัง เป็นต้นว่า ขึ้นผื่น แสบ คัน
เราจะดูแลตัวเองและป้องกันผื่นแพ้แสงได้อย่างไร?
การดูแลตัวเองเมื่อมีผื่นแพ้แสง จะเหมือนกับการป้องกันการเกิดผื่นแพ้แสง ซึ่งได้แก่
- พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่มีแดดจัด เช่นในช่วงเวลา 10.00 - 15.00 นาฬิกา
- ป้องกันผิวหนังไม่ให้ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรง ด้วยการทาครีมกันแดดบริเวณใบหน้า แขนขา รวมทั้งบริเวณนอกร่มผ้า
- ใช้วัสดุอุปกรณ์เพื่อป้องกันแสงแดด เช่น ใส่เสื้อกางเกงแขนยาว ขายาว ใช้ร่ม สวมหมวกปีกกว้าง สวมแว่นกันแดด
- มีความระมัดระวังและก็สังเกตปฏิกิริยาของผิวหนังเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆอาทิเช่น น้ำหอม ครีม โลชัน เพื่อการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นั้นๆถ้าทำให้เกิดผื่นแพ้แสง
ทำความรู้จักกับผื่นแพ้แสงแดด
Reviewed by TXL Admin
on
14:30
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: